Omakase (โอมากาเสะ) ก็คงไม่ต่างจากเวทีจัดแสดงนิทรรศการของศิลปินระดับท็อป ที่ต้องมาประชันฝีมือกัน แต่เป็นเวทีแห่งการประชันฝีมือ ผ่านการรังสรรค์ความอร่อยโดยเหล่าเชฟมากฝีมือทั้งหลาย ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาทำเป็นซูชิให้ได้ลิ้มลองกันแบบไม่ต้องบินไกลไปทานถึงแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งคำว่า Omakase แปลง่ายๆ ก็คือ “ตามใจเชฟ” โดยเชฟจะเป็นผู้คิดไอเดียตกแต่งรูปร่างหน้าตาของแต่ละเมนูให้ออกมาในแบบฉบับที่ไม่ซ้ำใคร และคัดเลือกเมนูที่จะมาเสิร์ฟให้เราด้วยตัวเอง ในแต่ละวันเมนูก็อาจจะแตกต่างกันออกไปตามฤดูกาล และวัตถุดิบที่ทางร้านได้มา โดยใน 1 คอร์ส จะเสิร์ฟเริ่มจากเมนู Appetizer เรียกน้ำย่อย ไต่ระดับความฟินของมื้ออาหารขึ้นมาเรื่อยๆ และปิดท้ายด้วยของหวานล้างปาก
1. Sushi Masato
จัดว่าเป็นโอมากาเสะที่จองยากที่สุดในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ โอมากาเสะชื่อดัง ระดับ 1 ดาวมิชลิน จาก Newyork ที่เชฟ คุณ Masato Shimizu ย้ายมาอยู่เมืองไทย มาเปิด ย่านสุขุมวิท ให้คนไทยได้กิน จองค่อนข้างยาก ชื่อเสียงและดาวมิชลินที่ได้มานั้นก็ยังคงเลื่องชื่อติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ มีที่นั่งรอบซูชิบาร์ทั้งหมด 12 ที่นั่ง และมีโต๊ะใหญ่ ที่นั่งได้ประมาณ 6 คน อีก 2 โต๊ะ ส่วนเมนูก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลรอเซอร์ไพร์สแฟนโอมากาเสะที่มาเยือนนั่นเอง
เวลาทำการ: วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) | มีเฉพาะรอบเย็น
ที่อยู่: 3/22 ซอยสวัสดี 1, สุขุมวิท 31 แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทร: 02 040 0015
2. Ginza Sushi Ichi
Ginza Sushi-ichi ร้านนี้มีสาขาต้นตำรับอยู่ที่ย่านกินซ่า เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ร้านในกรุงเทพฯ นี้ตั้งอยู่ในตึกเอราวัณที่ไม่พลุกพล่าน บรรยากาศในร้านที่กรุงเทพฯก็จะคราคร่ำไปด้วยความเป็นออริจินัลของญี่ปุ่น ตั้งแต่กองทัพเชฟที่ทุกคนล้วนผ่านการเทรนด์มาจากญี่ปุ่นอย่างดี ถ้าใครโชคดี อาจจะได้ทานดินเนอร์สุดพิเศษโดยเชฟใหญ่ Masakazu Ishibashi มาสเตอร์ซูชิผู้ที่มีประสบการณ์การทำซูชิมายาวนาน บรรยากาศภายในร้าน เมนูเน้นความเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ พร้อมเสิร์ฟความพรีเมี่ยมถึงมือผู้ทานเสมอ
เวลาทำการ: วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) | มี 2 รอบ กลางวันและเย็น
ที่อยู่: ชั้น LG ตึกเอราวัณ 494 ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 250 0014
3. Yuzu Omakase
ร้าน Omakaze แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อไม่นาน เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือของ Yuzu Ramen Thailand ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ของร้าน แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับส้มยูสึ (Yuzu) ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกคอนทราสต์ แต่ทว่ากลับกลายเป็นสีสัน เพิ่มรสชาติให้มีความโดดเด่นมากขึ้น ที่ทุกคนจะได้มาสัมผัสความพรีเมียมนี้ผ่านวัตถุดิบคุณภาพส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการทำโดยทีมเชฟผู้ชำนาญด้านโอมากาเสะหลายสิบปี คอร์สทั้งหมดของทางร้านมีความหลากหลาย จัดขึ้นเพื่อเอาใจลูกค้าโดยเฉพาะ มี 4 คอร์สด้วยกันได้แก่
Omakase Course 2,500 บาท (เฉพาะมื้อกลางวัน)
OmakaseCourse 4,500 บาท
Omakase Course 6,500 บาท
The Experience 9,500 บาท
เวลาทำการ: วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) | มี 2 รอบ กลางวันและเย็น
ทึ่อยู่: สยามสแควร์ ซอย 3 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โทร: 063 898 8989
4. Umi
มารู้จักร้านแรกๆ ที่ทำให้วิธีการกินแบบนี้เริ่มเป็นรู้จักในบ้านเราคือ Umi สุขุมวิท 49 ซึ่งตอนนี้ Umi ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวสาขาใหม่ที่เกษรวิลเลจในคาแรกเตอร์ที่แตกต่างจากที่เดิม ทั้งการตกแต่งร้านและรสชาติที่มีความนุ่มเบามากกว่า ฝีมือเชฟบรรพต เจ้าของประสบการณ์ด้านอาหารญี่ปุ่นกว่า 20 ปี “หัวใจของ Omakase คือ คุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้เราตัดสินใจบินไปเจรจาเพื่อหาวัตถุดิบด้วยตัวเอง” คุณทศพล ชัยชนะวิชชกิจ Co Founder ร้าน UMI เคยให้สัมภาษณ์ไว้ รับประกันได้ว่าวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถันจะทำให้เรามีมื้อสุดพรีเมี่ยม ตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย
เวลาทำการ :วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) | มี 2 รอบ กลางวันและเย็น
ที่อยู่: 46/4 ซอยสุขุมวิท 49, แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
โทร: 02 662 6661 (Umi Sukhumvit 49)
089 899 4949 (Umi Gaysorn)
5. Sushi Ichizu
Sushi Ichizu หนึ่งในลิสต์ร้านโอมากาเสะบนย่านสุขุมวิท ลิ้มรสความอร่อยของโอมากาเสะซูชิจากรสมือเชฟที่สืบทอดสูตรระดับตำนานอย่าง Sushi Sugita มาโดยตรงแบบไม่ต้องบินไปทานไกลถึงประเทศญี่ปุ่น ได้รับการโหวตเป็นร้านอาหารอันดับ 26 ของเอเชีย และร้านซูชิอันดับ 1 ของเอเชียนอกประเทศญี่ปุ่น จากการรวบรวมผลของ OAD เว็บไซต์รีวิวอาหารที่ประมวลผลจากนักชิมกว่า 2 แสนคน มีความมุ่งมั่นตั้งใจให้รสชาติเท่าเทียมมาตรฐานใกล้เคียงญี่ปุ่น สไตล์การตกแต่งร้านเป็นแบบ Zen ที่แบ่งออกเป็น 2 ห้องหลัก ๆ ได้แก่ บริเวณโซนโต๊ะกลม และโซนซูชิบาร์ สามารถเลือกได้ตามที่ต้องการ
เวลาทำการ: วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) | มีเฉพาะรอบเย็น
ที่อยู่: 1982 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง บางกะปิ เขต ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
โทร: 065 738 9999
6. Sushi Niwa
Sushi Niwa ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะโดยฝีมือคนไทยที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง Kouen Sushi Bar เป็นร้านที่นำวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นมาผสมผสานกับความโมเดิร์นในการดีไซน์ ทำให้ดูแปลกตามากขึ้น การผสมผสานรสชาติที่ถูกใจในทุกจานที่เสิร์ฟล้วนถูกคิดมาอย่างปราณีต ใส่ใจในทุกรายละเอียดโดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบตัวร้าน บรรยากาศร้าน ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าจะประทับใจให้กับทุกคนที่มาที่นี่ และกิมมิคในร้านที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือการมี Whisky Bar เท่ๆ ให้บริการสำหรับแขกที่ยังติดลมอยากดริ๊งค์ต่อ เพิ่มอรรถรสในมื้อดินเนอร์นี้ได้ไม่น้อยเลย
เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน
ที่อยู่: 39/5 ซอย ร่วมฤดี 2 แขวง ลุมพินี เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โทร: 063 456 5656
7. Fillets
เชฟประจำร้านเคยมีโอกาสได้ร่วมงานกับเชฟระดับโลกอย่าง เชฟ Hide Yamamoto และ เชฟ Masaharu Morimoto ผู้รั้งตำแหน่งเชฟกระทะเหล็กอเมริกามาก่อน ซึ่งเป็น 1 ในเหตุผลที่ดึงดูดใครหลายคนให้มาเยือนที่นี่ เมนูโอมากาเสะมีความร่วมสมัย เน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงแต่ง มีการดัดแปลงน่าตาของเมนู และใช้วัตถุดิบแปลกใหม่เพื่อให้ผู้ทานรู้สึกเซอร์ไพร์สทุกเมื่อทันทีที่ได้ลิ้มลอง
เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน | มี 2 รอบ กลางวันและเย็น
ที่อยู่: The Portico ชั้น 3
โทร: 092 879 6882
8. Meruto Sushi
เป็นร้านที่บริหารและทำอาหารโดยคนไทยทั้งหมด นำเข้าแต่วัตถุดิบพรีเมี่ยม ในแบบที่บางร้านในญี่ปุ่นยังใช้ของคุณภาพไม่ดีเท่านี้ อีกหนึ่งที่ที่จะทำให้ทุกๆ ท่านได้พบกับความพรีเมี่ยมของโอมากาเสะอย่างแท้จริง ร้าน Meruto Sushi นี้เค้ามีสไตล์การปรุงแบบ เอโดะมาเอะ หรือเรียกว่าแบบโตเกียวโบราณ คือในซูชิแต่ละคำจะมีวัตถุดิบหลักเพียงอย่างเดียว เชฟจะดึงเอารสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบนั้นๆ ขึ้นมาให้สุด เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงรสชาติที่ดีที่สุดเสมือนได้ไปทานถึงญี่ปุ่น
เวลาทำการ: วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)
ที่อยู่: 39 ถนน สาทรใต้ แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพมหานคร
โทร: 092 369 7924
Credit : Meruto Sushi
9. Sushi Misaki
Sushi Misaki ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะ ได้ฤกษ์ขยับขยายความอร่อยจากสาขาแรกที่ Rain Hill มายังชั้น 2 ของโรงแรมบัญดารา สวีท ซอยศาลาแดง 1 วัตถุดิบที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้ร้านมีวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงถึงมือผู้ทานอยู่เสมอ แถมยังมีเชฟชาวญี่ปุ่นที่สั่งสมประสบการณ์การทำซูชิมามากว่า 21 ปี คงจะเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่า Sushi Misaki ตั้งใจรังสรรค์เมนูเพื่อส่งตรงคุณภาพความอร่อยให้กับลูกค้า ควรโทรจองล่วงหน้าเพราะเคาท์เตอร์บาร์มีเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น
เวลาทำการ: วันเสาร์-วันจันทร์ (ปิดวันอาทิตย์) | มีเฉพาะรอบเย็น
ที่อยู่: RainHill สุขุมวิท 47 | ลง BTS พร้อมพงษ์ หรือ BTS ทองหล่อ
โทร: 02 258 1783
ติดตามรีวิวเพิ่มเติม : Kongaroi.com