พบกับ ร้านอาหาร ที่เน้นวัตถุดิบที่สดใหม่ โดยเฉพาะปลาญี่ปุ่นที่ส่งตรงจากตลาดปลาที่โอซาก้า พร้อมบรรยากาศเป็นกันเองสไตล์คันไซที่ ร้านอาหาร “Kansai Maru”
ถ้านึกถึง “ปลา” ก็ต้องนึกถึง “อาหารญี่ปุ่น” สินะ~ ก็เพราะว่าอาหารญี่ปุ่นนั้นเน้นการดึงรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบให้ออกมาเด็ดดวงถึงขีดสุด โดยเฉพาะปลา ที่ขนาดแล่มาสด ๆ โดยไม่ปรุง ยังทำให้เราเคยศิโรราบแล้วตะโกนออกมาว่า “โคโตบานิเดะคิไน โออิชิซาเดสึเน๊!~” (มันดีจนเกินคำบรรยายเลย ให้ตายเถ๊อะ!~) มาแล้ว และวันนี้เราจะพาไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่จัดเต็มด้านความสดใหม่ของปลามาแบบเน้น ๆ ณ ร้าน “Kansai Maru”
ร้าน “Kansai Maru” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ศุนย์การค้าเพลินนารี่มอลล์ ทางร้านเน้นบรรยากาศแบบ “ชาวคันไซ” ที่สนุกสนาน มีสีสัน เป็นกันเอง เหมือนคนกรุงฯ ที่ได้ออกไปเจอความน่ารักของคนต่างจังหวัดอย่างไรอย่างนั้น และทางร้านยังเป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบที่ส่งตรงจากตลาดปลาที่โอซาก้า รับประกันคุณภาพและความสดได้เลย
“Hamachi Uzusukuri” (320 บาท) ปลาฮามาจิหรือปลาหางเหลืองสด ๆ แล่บาง จัดวางมาในจานทรงกลมสวยงาม แล่มาได้บางพอดีทำให้เนื้อยังหนึบเด้งสู้ฟันแต่ไม่หนาเกินจนขี้เกียจเคี้ยว จิ้มซอสพอนซึที่เพิ่มรสเปรี้ยวและเค็มให้กับวัตถุดิบ
เราจะจัดเมนูปลากันไปยาว ๆ กับเมนูพิเศษของทางร้านอย่างเมนู “Sakuradai Miso Nabe” (199 บาท) เป็นนาเบะหรือเมนูหม้อไฟญี่ปุ่นที่คราวนี้มากับ “ปลาซากุระได” หรือในชื่อไทยคือ “ปลาสายบัว” ใช่แล้ว~ เป็นปลาทะเลน้ำลึกของไทยครับ พอเนื้อปลาสุกในหม้อไฟแล้ว เนื้อปลาจะแน่นสู้ฟันเล็กน้อย แถมซุปยังหอมกลมกล่อม ไม่แพ้ปลาญี่ปุ่นเลยล่ะ
เมนู “Matsu Sashimi” (1,500 บาท) ชุดซาชิมิรวมไซส์ใหญ่ รวมดาววัตถุดิบเลอค่าอย่าง หอยโฮตาเตะ, หอยปีกนก, ไข่หอยเม่น, ท้องปลาแซลมอน, ปลาแซลมอน, ปลาฮามาจิ, ปลามาได, ปลาทูน่าเยลโลฟิน, กุ้งโบตั๋น, ปลาหมึกทาโกะ, ไข่ปลาแซลมอน, อากามิ และตัวพีคอย่าง “ชูโทโร” เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าบลูฟินที่มีมันแทรกอยู่ในระดับปานกลาง ทำให้เนื้อนุ่ม มีความชุ่มฉ่ำ ดีงามพระราม 12 มาก
“Maxnum Anago” (คำละ 150 บาท) ข้าวปั้นปลาไหลทะเลทรงเครื่อง เป็นปลาไหลทะเลญี่ปุ่นเนื้อนุ่มหอมไร้กลิ่นคาวและท็อปด้วยท้องปลาแซลมอน, ไข่ปลาบิน และซอสทรงเครื่องถึง 4 ชนิด! และเมนู“Kansai Sushi” (1,200 บาท) รวมดาวข้าวปั้นหน้าต่าง ๆ ทั้ง วากิวเบิร์นไฟ, ครีบปลาตาเดียว, ฮามาจิ, ปลาไหลญี่ปุ่น, ไข่แซลมอน, ไข่หอยเม่น, ชูโทโร และสุดยอดวัตถุดิบอย่าง “โอโทโร” เนื้อปลาทูน่าบลูฟินส่วนท้องที่มีมันแทรกอยู่ในระดับสูง ทำให้เนื้อแทบละลายในปากเลยล่ะ
ไม่รอช้าที่จะสานต่อความเด็ด! กับเมนู “Kawahagi Miso Nabe” (199 บาท) เมนูพิเศษอีกจานที่ใช้ปลาไทยอย่าง “ปลาหน้าวัว” ที่มาในหม้อไฟร้อนฉ่ากับเนื้อปลาแน่น ๆ และซุปอันกลมกล่อม และเมนู “Unagi Uramaki” (350 บาท) ข้าวห่อหน้าปลาไหลญี่ปุ่นนุ่ม ๆ สอดไส้ด้วยแซลมอน และครีมชีสที่เพิ่มรสชาติอย่างดี
มาที่เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน “Kansai Maru” อย่างเมนู “Kansai Don” (520 บาท) ข้าวหน้าปลามาไดที่มีความพิเศษตรงที่สามารถราดน้ำซุปร้อน ๆ เพื่อให้จานนี้กลายเป็นข้าวต้มปลามาไดได้ด้วย โดยเนื้อปลาจะมีความแน่นทำให้กินกับข้าวต้มนุ่ม ๆ ได้โดนใจมากขึ้น แถมเพิ่มรสชาติด้วยผงชาเขียวและข้าวพองได้อีกด้วย ซึ่งเมนูนี้ทางร้านยังบอกอีกว่าเป็นเมนูที่หากินได้ยาก
สำหรับคนที่เบื่อเนื้อปลาแล้ว ทางร้าน “Kansai Maru” ยังมีเมนูเด็ดอย่างอื่นด้วย กับเมนู “Wagyu Steak” (690 บาท) เป็นเนื้อวัววากิวระดับความฟินอยู่ที่ A4!!! เนื้อชิ้นใหญ่แต่ไม่หนาเกินไป มีมันแทรกพอประมาณกำลังหอมหวานอย่างพอดี เป็นการปิดท้ายที่เลิศ
การเดินทาง
ร้าน “Kansai Maru” ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ศุนย์การค้าเพลินนารี่มอลล์ ย่านถนนวัชรพล มีที่จอดรถรองรับครับผม
Phone number : 092-256-8379
Facebook : https://www.facebook.com/page.Kansaimaru