สำหรับการ ต้มไข่ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่การจะต้มไข่ให้ออกมาสวย ไข่แดงอยู่ตรงกลาง และที่สำคัญแกะง่าย และให้ได้ความสุกอยู่ในระดับที่ต้องการนั้นมีหลากหลายวิธี ทำให้หลายครั้งการต้มไข่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เช่น การใส่น้ำส้มสายชู และ เกลือลงไป แต่หลายคนที่ได้ลองก็อาจจะทำไม่สำเร็จ วันนี้เรามีเคล็ดลับอีก 1 วิธีมาบอก คือ “ไข่” ที่จะนำไปต้มต้องไม่ใช่ไข่แช่เย็น ควรเป็นไข่ที่ตั้งอยู่ในอุณหภูมิห้อง
ก่อนอื่นควรทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ไข่แดงมีอุณหภูมิต่ำกว่าไข่ขาว โดยอุณหภูมิของไข่แดงอยู่ที่ประมาณ 70 องศาเซลเซียส ในขณะที่อุณหภูมิของไข่ขาวอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจทำให้หลายคนเข้าใจว่าไข่แดงจะสุกเร็ว ทั้งที่จริงแล้วไข่ขาวต่างหากที่สุกเร็วกว่า เพราะอย่าลืมว่าไข่ขาวนั้นอยู่ภายนอก และสัมผัสกับความร้อนจากน้ำเดือดโดยตรง
เทคนิคในการ ต้มไข่
สำหรับเทคนิคการต้มไข่ที่นำมาแนะนำกันในวันนี้ ให้เริ่มต้นจากการนำไข่ไก่ที่เพิ่งนำออกมาจากตู้เย็น ล้างไข่ไก่ให้สะอาด วางลงในหม้อที่จะใช้ต้ม เทน้ำเปล่าใส่ลงไป ให้ท่วมไข่พอประมาณ หรือกะว่าสูงกว่าไข่ไก่ประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นก็นำหม้อขึ้นตั้งไฟต้มจนน้ำเดือดถึงจุดสูงสุด ปิดไฟ พักทิ้งไว้ให้ความร้อนค่อย ๆ ซึมเข้าไปในไข่ไก่ โดยในขณะที่อุณหภูมิไข่ไก่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิของน้ำก็จะลดลง ด้วยเคล็ดลับดังกล่าวนี้เองที่จะทำให้ได้ไข่ต้มตามที่ต้องการมากขึ้น และในครั้งต่อ ๆ ไปหากต้องการไข่ต้มแบบเดิมในสูตรเดียวกันนี้ ก็ควรจะใช้ไข่ไก่เบอร์เดียวกัน น้ำต้มในปริมาณที่เท่ากัน ในหม้อและความร้อนที่ระดับเดิมด้วย
ต้มไข่กี่นาที
การจะต้มไข่ให้ได้ตามที่ใจต้องการนั้น ไม่ว่าจะเป็นไข่ลวก ไข่ต้มยางมะตูม หรือไข่สุก ต้องใช้เวลาต้มนานเท่าไหร่กัน ตามมาดูกันเลย
ต้มนาน2 นาที – ไข่ขาวยังไม่สุกดีนัก และไข่แดงก็ยังดิบอยู่ หรือ “ไข่ลวก” นั่นเอง
ต้มนาน4 นาที – ไข่ขาวสุกเริ่มดีแล้ว ในขณะที่ไข่แดงก็ยังกึ่งสุกกึ่งดิบและเหลวอยู่ หรือ “ไข่ต้มยางมะตูม”
ต้มนาน6 นาที – ไข่ขาวสุกเต็มที่ และไข่แดงก็เกือบจะสุกแล้ว แต่บริเวณกึ่งกลางยังเหนียวอยู่เล็กน้อย
ต้มนาน8 นาที – ไข่ขาวสุกเต็มที่ และไข่แดงก็เกือบสุกแล้วเช่นกัน แต่ยังอ่อนตัวอยู่เล็กน้อย
ต้มนาน10 นาที – ทั้งไข่ขาวและไข่แดงสุกเต็มที่ หรือ “ไข่สุก”
เทคนิคเสริม หลังจากที่นำไข่ไก่ขึ้นจากน้ำร้อน ควรจะนำไปแช่ในน้ำเย็นทันที เพื่อหยุดการสุกของไข่ไก่เอาไว้ให้ได้ตามที่ต้องการ เพราะอย่าลืมว่า ความร้อนภายในไข่ไก่นั้นยังคงแพร่กระจายอยู่ถึงแม้จะนำออกจากหม้อแล้วก็ตาม